Rubber Coupling
อัพเดทล่าสุด: 9 ก.ย. 2024
483 ผู้เข้าชม
Rubber Coupling
ข้อต่อเพลาที่ใช้วัสดุยางเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างเพลาสองข้าง เพื่อถ่ายโอนแรงบิดและชดเชยการเยื้องศูนย์ของเพลา ข้อต่อชนิดนี้มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยดูดซับแรงกระแทกและลดแรงสั่นสะเทือน ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความนุ่มนวลในการส่งกำลัง เช่น ในระบบมอเตอร์และปั๊มคุณสมบัติของ Rubber Coupling:
- การดูดซับแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือน: วัสดุยางมีคุณสมบัติในการดูดซับแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากการหมุนของเพลา ซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายต่อเครื่องจักรและเพิ่มอายุการใช้งานของระบบ.
- ชดเชยการเยื้องศูนย์: Rubber Coupling สามารถชดเชยการเยื้องศูนย์ได้ทั้งในเชิงมุม, รัศมี และตามแกน ซึ่งเกิดจากการติดตั้งเพลาที่ไม่ตรงกันหรือการขยายตัวของวัสดุเมื่อทำงานในอุณหภูมิสูง.
- ลดเสียงรบกวน: ยางสามารถลดเสียงรบกวนจากการทำงานของเครื่องจักรได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการลดเสียง.
- ต้นทุนต่ำและบำรุงรักษาง่าย: วัสดุยางมีราคาถูกกว่าวัสดุโลหะ และข้อต่อประเภทนี้มักไม่ต้องการการบำรุงรักษามากนัก ยกเว้นกรณีที่ยางเริ่มเสื่อมสภาพ.
- ความยืดหยุ่นสูง: Rubber Coupling มีความยืดหยุ่นสูงกว่าข้อต่อที่ทำจากโลหะ จึงสามารถปรับตัวเข้ากับแรงกระแทกและการเคลื่อนไหวที่ไม่สม่ำเสมอได้ดี.
- จำกัดแรงบิดได้: Rubber Coupling มีคุณสมบัติจำกัดแรงบิดที่สามารถถ่ายโอนผ่านข้อต่อได้ เมื่อแรงบิดที่เกินกว่าความสามารถของยางเกิดขึ้น ยางจะเสียรูปหรือหลุดออกจากระบบ ซึ่งป้องกันการเสียหายรุนแรงของระบบโดยรวม.
- ระบบมอเตอร์และปั๊ม: Rubber Coupling นิยมใช้ในระบบมอเตอร์และปั๊มเพื่อดูดซับแรงกระแทกที่เกิดจากการเริ่มต้นหรือหยุดทำงานของมอเตอร์ รวมถึงลดแรงสั่นสะเทือนที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน.
- ระบบขับเคลื่อนในยานยนต์: ใช้ในระบบส่งกำลังของยานยนต์ เช่น ระบบส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังเกียร์หรือระบบขับเคลื่อนล้อ เพื่อช่วยลดแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการทำงานของเครื่องยนต์.
- เครื่องจักรอุตสาหกรรม: ในเครื่องจักรที่มีการหมุนเร็วหรือมีการเปลี่ยนแปลงแรงบิดอย่างรวดเร็ว เช่น เครื่องผสม, เครื่องบดย่อย หรือเครื่องจักรในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วน.
- ระบบระบายความร้อน: ใช้ในพัดลมและระบบระบายความร้อนในอุตสาหกรรมที่ต้องการการทำงานอย่างราบรื่น โดยลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงรบกวน.
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้า: ในระบบส่งกำลังจากมอเตอร์ไปยังเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อควบคุมแรงกระแทกที่เกิดขึ้นเมื่อมอเตอร์เริ่มทำงานหรือหยุดทำงาน และลดเสียงรบกวน.
บทความที่เกี่ยวข้อง
ค่าสัมประสิทธิ์ความแข็งของสปริง (Spring Constant, k) เป็นค่าที่ใช้บอกถึงความแข็งหรือนุ่มของสปริง ซึ่งหมายถึงปริมาณแรงที่จำเป็นต้องใช้เพื่อทำให้สปริงยืดหรือหดไปตามระยะที่กำหนด
12 ก.พ. 2025
สปริงกด หรือ Compression springs , สปริงดึง หรือ Tension springs,สปริงดีด หรือ Torsion springs,สปริงดัด หรือ สปริงรูปแบบตามความต้องการ
7 ม.ค. 2024
จำหน่ายขดลวดสปริงคุณภาพสูง รับผลิตตามแบบ วัสดุแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้หลากหลาย เช่น เครื่องจักร อุตสาหกรรมยานยนต์ และงานแม่พิมพ์
12 ก.พ. 2025