คัปปลิ้ง Coupling หรือยอย คืออะไร
คัปปลิ้ง( Coupling) หรือ ยอย คือกระบวนการการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์หรือส่วนต่าง ๆ ของระบบเครื่องจักรหรือโครงสร้าง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งสัญญาณหรือพลังงานจากระบบหนึ่งไปยังระบบอื่น ๆ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขส่วนประกอบหลักของระบบนั้น ๆ โดยตรง กระบวนการนี้มีความสำคัญในการออกแบบและวิเคราะห์ระบบที่มีความซับซ้อน เช่น ระบบเครื่องจักรใหญ่ ๆ หรือโครงสร้างที่มีหลายส่วนประกอบที่ต้องทำงานร่วมกันอย่างเป็นประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างในส่วน เพลา กับ มอเตอร์ เป็นต้น
4 ส่วนประกอบที่สำคัญของ คัปปลิ้งหรือ ยอย
- ส่วนเชื่อมของสองด้าน : ส่วนที่เชื่อมต่อกับตัวขับและตัวถูกขับ มักจะมีรูหรือโพรงที่ใช้ในการยึดตัวต่อกับตัวขับและถูกขับ
- ด้านตัวขับ (Driver) : ตัวขับคือส่วนที่มีการหมุนเคลื่อนและเป็นที่ติดตั้งกับตัวต่อ ตัวขับมีหน้าที่ส่งกำลังไปยังตัวถูกขับ
- ด้านตัวถูกขับ (Driven) : ตัวถูกขับคือส่วนที่รับกำลังจากตัวขับและมีการหมุนเคลื่อนตามนั้น
- ยางยอย (Coupling Sleeve) : ประกอบด้วยวัสดุที่ยืดหยุ่นเพื่อลดแรงกระทำและสั่นสะเทือน
12 ประเภทของที่คุณต้องรู้ของ คัปปลิ้งหรือ ยอย
1. คัปปลิ้งแบบมียาง (Flexible Shaft Coupling)
คืออุปกรณ์ทางวิศวกรรมที่ใช้ในการเชื่อมต่อแกนของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ในระบบโดยให้ความยืดหยุ่นในการทำงาน โดยปกติมักถูกใช้ในกรณีที่มีการแกว่งหรือเทียบแกนที่ไม่เท่ากัน หรือมีความผิดพลาดในการจับคู่แกนระหว่างเครื่องจักรทั้งสองข้าง
คัปปลิ้งแบบมียาง หรือ ที่เรียกว่า ยอยยาง(RUBBER BLOCK COUPLING) มีโครงสร้างที่ประกอบด้วยฮับ (hub) สองส่วนที่ต้องการเชื่อมต่อ และลูกยาง (rubber element) ที่อยู่ระหว่างฮับสองส่วนเหล่านี้ ลูกยางทำหน้าที่เป็นตัวนิ่มหรือยืดหยุ่นเมื่อเกิดการแกว่งหรือเทียบแกน ทำให้ลดแรงกระแทกและป้องกันการสะเทือนสั่นในระบบ
2. คัปปลิ้งแบบไม่มียาง (Rigid Shaft Coupling)
คืออุปกรณ์ทางวิศวกรรมที่ใช้ในการเชื่อมต่อแกนของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ในระบบโดยที่ไม่มีความยืดหยุ่นหรือบิดงอ ซึ่งคัปปลิ้งที่ถูกออกแบบให้เป็นโครงสร้างแข็งแรงและไม่มีส่วนที่เป็นยางหรือวัสดุที่ยืดหยุ่นอื่น ๆ ซึ่งมักจะทำจากวัสดุที่แข็งแรงเช่น เหล็กหรือสแตนเลส ทำงานได้ในสภาพที่มีการสั่นสะเทือน
3. คัปปลิ้งยูนิเวอร์ซัล (Universal Couplings)
รูปแบบนี้ใช้สำหรับการเชื่อมต่อแกนที่มีการเคลื่อนไหวแบบหมุนรอบ ๆ และบิดงอ มักใช้ในกรณีที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงานแกนนี้เชื่อมต่อกับข้อต่อสำหรับเชื่อมไปยังแกนที่ต้องการเชื่อมต่ออีกด้านหนึ่ง
4. คัปปลิ้งโซ่ (Chain Couplings)
โครงสร้าง :ประกอบด้วยสองแกนที่ต้องการเชื่อมต่อกันและ โซ่ทำหน้าที่เชื่อมต่อแกนสองข้างกันและถ่ายโอนกำลังงาน
การทำงาน: โซ่ถูกวางบนเฟืองที่ติดอยู่ที่ปลายแต่ละแกนและ เฟืองลูกหมุนที่ติดอยู่ที่ปลายแต่ละแกน เมื่อแกนหมุน เฟืองทำให้โซ่หรือส่วนปลาย หมุนไปตาม และถ่ายโอนกำลัง โซ่จะมีความยืดหยุ่น ช่วยลดการสั่นสะเทือน
5. ยอยสลัก (Crowded Pin Coupling)
โครงสร้าง : ประกอบด้วยสองแกนที่ต้องการเชื่อมต่อกัน ยอยสลักเป็นส่วนสำคัญที่ถูกนำมาใช้ในการเชื่อมต่อและถ่ายโอนกำลังงานระหว่างแกนสองข้างกัน ปีกยอยสลักหรือปีกคีมทำหน้าที่ต่อยอยสลักและแกน
การทำงาน : ปีกยอยสลักหรือปีกคีมถูกนำเข้าไปในร่องยอยสลักบนแกนและยอยสลัก โดยเมื่อแกนหมุน ยอยสลักจะถูกดึงตามแกน ทำให้เกิดการถ่ายโอนกำลังงาน ยอยสลักมีลักษณะที่มีช่องรอยหรือร่องเล็กที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและย้ายแรงบิดระหว่างแกน
6. Slit Coupling (คัปปลิ้งช่องรอย)
โครงสร้าง : ประกอบด้วยสองแกนที่ต้องการเชื่อมต่อ และคัปปลิ้งที่มีช่องรอยหรือร่องเล็ก ๆ สองด้านของคัปปลิ้ง
การทำงาน : ช่องรอยช่วยในการลดแรงสั่นสะเทือนและการขนย้ายแรงบิดระหว่างแกน เมื่อแกนหมุน คัปปลิ้งช่องรอยจะถูกบีบอัดและทำให้เกิดการถ่ายโอนกำลังงาน
7. Disc Coupling (คัปปลิ้งแผ่น)
โครงสร้าง : ประกอบด้วยสองแกน และแผ่นที่มีรูเพื่อต่อกับแกนทั้งสองด้าน
การทำงาน : แผ่นหลายชั้นทำให้เกิดการหดตัวและการขยับของแผ่น เมื่อแกนหมุน แผ่นหลายชั้นนี้จะบีบและทำให้เกิดการถ่ายโอนกำลังงาน
8. Elastic Coupling (คัปปลิ้งยืดหยุ่น)
โครงสร้าง : ประกอบด้วยสองแกนและวัสดุยืดหยุ่นที่ใช้ในการเชื่อมต่อและถ่ายโอนกำลังงาน
การทำงาน : วัสดุยืดหยุ่นช่วยลดแรงสั่นและช่วยให้คัปปลิ้งทำงานได้ในสภาพที่มีการเคลื่อนที่หรือสั่นสะเทือน
9. Diaphragm Coupling (คัปปลิ้งไดอะแกรม)
โครงสร้าง : ประกอบด้วยแผ่นบางที่มีรูและสองแกน
การทำงาน : เมื่อแกนหมุน แผ่นบางจะบิดตัวและทำให้เกิดการถ่ายโอนกำลังงาน คัปปลิ้งไดอะแกรมมีความแม่นยำและสามารถทนทานต่อการหมุนที่ไม่ตรงกันได้
10 Gear Coupling ( คัปปลี้งเกียร์ )
โครงสร้าง : Gear coupling ประกอบด้วยสองล้อเฟืองที่ต่อกับแกนของเครื่องจักร โดยล้อเฟืองมีลักษณะเป็นทรงกระบอก เมื่อล้อเฟืองจับกันระหว่างเครื่องจักรสองตัว จะสามารถส่งกำลังผ่านการหมุนร่วมกันได้
การทำงาน : เมื่อเครื่องจักรหรือของต่ำกว่าที่มี Gear coupling ติดตั้งหมุน กำลังที่เกิดจากการหมุนของล้อเฟืองจะถูกส่งต่อจากตัวหนึ่งไปยังตัวอีกตัวหนึ่งผ่านล้อเฟืองที่ถูกเชื่อมต่อกัน โครงสร้างนี้ช่วยให้สามารถทนทานต่อการเอียงและการขยับของเครื่องจักรได้ดี
11.Tire Coupling ( คัปปลี้งยาง )
โครงสร้าง: Tire coupling ประกอบด้วยริงยางหรือยางที่มีความยืดหยุ่น ที่ต่อระหว่างแกนของเครื่องจักรทั้งสอง
การทำงาน: เมื่อเครื่องจักรหรือของต่ำกว่าที่มี Tire coupling ติดตั้งหมุน, ยางจะทำหน้าที่ในการลดแรงสั่นสะเทือนและช่วยในการปรับสภาพพื้นที่ทำงานที่เกิดการเอียง
12. Grid Coupling ( คัปปลี้งตาข่าย )
โครงสร้าง: Grid coupling ประกอบด้วยลวดตาข่ายที่ต่ออยู่ระหว่างแกนของเครื่องจักรทั้งสอง ลวดตาข่ายนี้ทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น สแตนเลส
การทำงาน: เมื่อเครื่องจักรหรือของต่ำกว่าที่มี Grid coupling ติดตั้งหมุน, ลวดตาข่ายจะทำหน้าที่ในการส่งกำลังผ่านจากแกนของเครื่องจักรหนึ่งไปยังแกนของเครื่องจักรอีกตัวหนึ่ง โครงสร้างนี้ช่วยให้สามารถปรับสภาพพื้นที่ทำงานที่เกิดการเอียงได้ดีและมีความทนทานต่อการกระแทกดี
5 ข้อคุณสมบัติ คัปปลิ้งหรือ ยอย
- ความยืดหยุ่น (Flexibility): คัปปลิ้งต้องมีความยืดหยุ่นเพียงพอเพื่อทำให้ส่วนที่ขับและส่วนถูกขับสามารถทำงานได้โดยไม่มีปัญหาจากการหมุนผิดที่หรือการจุดสั่นสะเทือน
- การส่งกำลัง (Torque Transmission): คัปปลิ้งต้องสามารถส่งกำลังหมุนจากส่วนขับไปยังส่วนที่ถูกขับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความทนทานต่อแรงกระทำ (Load Capacity): คัปปลิ้งควรสามารถรับแรงโหลดและแรงกระทำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการทำงาน
- ความแม่นยำ (Accuracy): คัปปลิ้งควรมีความแม่นยำในการทำงาน โดยไม่ทำให้เกิดความเอียงหรือความไม่แน่นอน
- อายุการใช้งาน (Service Life): คัปปลิ้งควรมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและไม่ต้องการการบำรุงรักษาบ่อย
รวม 8 ประยุกต์การใช้งาน คัปปลิ้งหรือ ยอย
เครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม : ใช้ในเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเชื่อมต่อแกนของมอเตอร์, พัดลม, ปั๊ม, เครื่องผลิต, และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีการหมุน
ระบบส่งกำลัง : นิยมใช้ในระบบส่งกำลัง เพื่อเชื่อมต่อและส่งกำลังระหว่างแกนของมอเตอร์กับแกนของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ
ระบบทำงานขับเคลื่อน : ใช้ในระบบทำงานขับเคลื่อนที่มีการเคลื่อนที่ต่อเนื่อง, เช่น ระบบลำเลียง, ระบบคอนเวย์เยอร์, ระบบท่อส่งวัสดุ, และอุปกรณ์ที่ต้องการการเชื่อมต่อแกน
ระบบควบคุมการหมุน (Rotary Motion Control Systems) : ในระบบที่ต้องการควบคุมการหมุนของแกนอย่างแม่นยำ, เช่น หุ่นยนต์, ระบบ CNC, และเครื่องมืออัตโนมัติ
การผลิตและการแปรรูป : ในกระบวนการผลิตและการแปรรูป, Coupling มักถูกใช้เพื่อเชื่อมต่อแกนของเครื่องจักรที่มีการทำงานต่อเนื่อง
ระบบพานเคเบิล (Conveyor Systems) : ในระบบลำเลียงวัสดุและพานเคเบิลที่ใช้ในโรงงานและโกดัง
ระบบหุ่นยนต์ (Robotic Systems) : ในหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่ต้องการการเชื่อมต่อแกนและการควบคุมการหมุน
ระบบท่อ (Plumbing Systems) : ในระบบท่อน้ำ, ระบบท่อแก๊ส, และระบบท่อไฮดรอลิก
คำถามของลูกค้าที่ถูกถามมาบ่อย เกี่ยวกับ คัปปลิ้งหรือ ยอย
1.คัปปลิ้ง( Coupling ) หรือยอยมีประโยชน์อย่างไรในอุตสาหกรรม?
มีประโยชน์ในการเชื่อมต่อแกนของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ในระบบโดยที่มีความแม่นยำและความยืดหยุ่นตามความเหมาะสมของแต่ละแอปพลิเคชัน ช่วยลดแรงกระแทกและสั่นสะเทือน และป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน
2.คัปปลิ้ง( Coupling ) หรือยอยแบบไหนเหมาะกับงานในสถานการณ์นั้น?
ความเหมาะสมของคัปปลิ้งขึ้นอยู่กับลักษณะและความต้องการของงาน ยอยยางมักถูกนำมาใช้ในงานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน ในขณะที่คัปปลิ้งแบบแข็งแรงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำและความเข้มแข็งในการเชื่อมต่อแกน
3.เมื่อใดควรใช้คัปปลิ้งประเภทใดบ้าง?
การเลือกใช้ประเภทของคัปปลิ้งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการทำงาน, การรับแรง, และความต้องการของแต่ละแอปพลิเคชัน
ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษา หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ข้อมูลติดต่อ:
โทรศัพท์: 081-11229911 หรือ 02-4725888
อีเมล: Kn_natchanon@hotmail.com