แชร์

ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม คืออะไร

อัพเดทล่าสุด: 8 ม.ค. 2024
1057 ผู้เข้าชม
ดูแบริ่งอย่างไรให้คุณรู้ว่าเป็น ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม

ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม ( Angular contact ball bearings ) เป็นชนิดหนึ่งของแบริ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อรับภาระจากแรงแกนหรือแรงเหวี่ยงมุม (thrust) ได้ดี ซึ่งในทางปฏิบัติแบริ่งนี้เป็นแบริ่งสามารถ เลือกมุมองศาของการรับแรงได้หลากหลายแต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละแอปพลิเคชัน


หลักการทำงาน
มีความสามารถที่จะรับแรงแกนและแรงรัศมี ในทิศทางแนวนอนและแนวตั้ง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในแอปพลิเคชันที่มีการภาระที่มีทิศทางหลายทิศทาง


6 ส่วนประกอบที่สำคัญ ของ ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม

  1. Outer Ring (แหวนนอก) : แหวนนอกของ angular contact ball bearing เป็นส่วนที่มีขนาดใหญ่และทำหน้าที่ในการรับแรงจากภาระภายนอก มันมักถูกผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งและทนทาน
  2. Inner Ring  (ห่วงใน): แหวนในเป็นส่วนที่มีขนาดเล็กและมีหลุมสำหรับการบรรจุลูกบอล ทำหน้าที่หมุนรอบแกน
  3. บอล (Balls) : รับแรงแกนและแรงเหวี่ยงใน angular contact ball bearing. ลูกบอลมีลักษณะที่ทำให้มีมุมติดต่อกับทั้งห่วงนอกและห่วงใน
  4. รัง (Cage) : จัดเรียงลูกบอลในตำแหน่งที่ถูกต้องและการสนับสนุนลูกบอลในการหมุน
  5. ระยะห่าง(Clearance):ระยะห่างของแหวนใน angular contact ball bearing มีผลต่อความแม่นยำในการทำงาน ความห่างนี้ต้องถูกตั้งค่าเพื่อให้มีการสัมผัสที่ติดต่อถูกต้องระหว่างลูกบอลและแหวน
  6. มุมองศาติดต่อ (Contact Angle) : มุมองศาติดต่อระหว่างลูกบอลและแกนกับมีผลต่อการรับแรงแกนและแรงเหวี่ยง. มุมติดต่อมากขึ้นจะทำให้ลูกบอลมีความสามารถในการรับแรงแกนมากขึ้น แต่ก็จะทำให้แบริ่งหมุนได้ช้าลงตาม

3 ประเภทของที่คุณต้องรู้ของ  ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม

  1. ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม15 องศา (15° Contact Angle): Angular contact ball bearings ที่มีมุมติดต่ออยู่ที่ 15 องศามักนิยมในการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำในการทำงานและการรับแรงแกนที่สูง
  2. ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม25 องศา (25° Contact Angle): Bearings ที่มีมุมติดต่อ 25 องศามักนิยมในการใช้งานที่มีการรับแรงแกนและการทำงานที่ต้องการความสมดุลระหว่างความคงทนและความแม่นยำ
  3. ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม 40 องศา (40° Contact Angle): Bearings ที่มีมุมติดต่อ 40 องศามักนิยมในการใช้งานที่มีการรับแรงแกนที่สูงและความสามารถในการรับภาระที่มีทิศทาง
4 ข้อคุณสมบัติ ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม ก่อนจะซื้อ
  • มุมติดต่อ (Contact Angle): เลือกมุมติดต่อที่เหมาะสมตามการใช้งาน มุมติดต่อที่ต่างกันมีผลต่อความสามารถในการรับแรงแกนและแรงรัศมี
  • ความสามารถในการรับภาระ (Load Capacity): คำนึงถึงการรับแรงแกนและแรงเหวี่ยงที่ตลับลูกปืนสามารถรับได้ ตรวจสอบการระบุแรงดึงและแรงบีบที่ตลับลูกปืนสามารถรับได้
  • การทนทานต่อสภาพแวดล้อม (Environmental Resistance): หากตั้งใจให้ตลับลูกปืนทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อน, ความเย็น, หรือสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่ทำให้มีฝุ่น, น้ำ, หรือสารเคมี, ควรเลือกตลับลูกปืนที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมเหล่านี้
  • ความสามารถในการปรับมุม (Adjustability): บางตลับลูกปืนมีความสามารถในการปรับมุมติดต่อ, ซึ่งสามารถปรับเพื่อให้เหมาะสมกับเงื่อนไขการใช้งาน
รวม 6 ประยุกต์การใช้งาน ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม

 เครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม: ถูกใช้ในเครื่องจักรต่างๆ เช่น เครื่องประกอบ, เครื่องมือต่างๆ, และเครื่องจักรอุตสาหกรรมทั่วไป

 ยานพาหนะ: ในยานพาหนะ สามารถให้ความสามารถในการรับแรงแกนและการทำงานที่ต้องการความคงทน

 เครื่องบิน: ในอุตสาหกรรมการบิน  มักถูกนำมาใช้ในส่วนของเครื่องจักร, ระบบสะพาย, และอุปกรณ์อื่นที่ต้องการความแม่นยำและความทนทาน

 อุตสาหกรรมโรงงาน: สามารถให้ประสิทธิภาพสูงในสภาพแวดล้อมโรงงานที่มีการทำงานที่ต้องการความแม่นยำและรับแรงแกน

 เครื่องจักรทางการแพทย์: มีการใช้งานในอุตสาหกรรมการแพทย์เช่น อุปกรณ์การผ่าตัด, เครื่องมือการทำงาน, และเครื่องจักรทางการแพทย์

 อุปกรณ์ระบบไฟฟ้า: สามารถให้ความนิยมในอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าเช่น มอเตอร์, กลไกหุ่นยนต์, และเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

 ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม เบอร์ลูกปืนจะขึ้นต้นด้วย เลข 7_ _ _   

คำถามของลูกค้าที่ถูกถามมาบ่อยเกี่ยวกับ ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม

1.  ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุมคืออะไร?

 เป็นชนิดของตลับลูกปืนที่ถูกออกแบบมาเพื่อรับภาระที่มีการแกว้งหรือการหมุนและมีมุมติดต่อระหว่างลูกบอลและแกนของตลับลูกปืน

2. มุมติดต่อมีผลอย่างไรต่อการทำงานของตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม?

 มุมติดต่อมีผลต่อความสามารถในการรับแรงแกนและแรงเหวี่ยง  มุมติดต่อที่มากขึ้นจะทำให้ตลับลูกปืนมีความสามารถในการรับแรงแกนมากขึ้น แต่ก็จะทำให้ลูกบอลมีความไม่สมดุลที่มากขึ้นเมื่อมีแรงเหวี่ยง

3. มีประเภทของ Angular Contact Ball Bearings มากน้อยแค่ไหน?

 มีหลายประเภทตามมุมติดต่อที่แตกต่างกัน, บางประการได้แก่ 15 องศา, 25 องศา, และ 40 องศา. มุมติดต่อมีผลต่อความสามารถในการรับแรงแกนและแรงรัศมีแต่ละประเภท

4. มีข้อดีอะไรของ Angular Contact Ball Bearings ต่อการใช้งาน?

 มีข้อดีในการรับแรงแกนและการทำงานที่ต้องการความแม่นยำ  มีความสามารถในการรับภาระที่มีทิศทาง และมีความทนทานต่อการทำงานในสภาพแวดล้อม

บทความที่เกี่ยวข้อง
ค่าKสปริง
ค่าสัมประสิทธิ์ความแข็งของสปริง (Spring Constant, k) เป็นค่าที่ใช้บอกถึงความแข็งหรือนุ่มของสปริง ซึ่งหมายถึงปริมาณแรงที่จำเป็นต้องใช้เพื่อทำให้สปริงยืดหรือหดไปตามระยะที่กำหนด
12 ก.พ. 2025
รับทำสปริง ตามขนาดและชนิดที่ต้องการ
สปริงกด หรือ Compression springs , สปริงดึง หรือ Tension springs,สปริงดีด หรือ Torsion springs,สปริงดัด หรือ สปริงรูปแบบตามความต้องการ
7 ม.ค. 2024
ขดลวดสปริง
จำหน่ายขดลวดสปริงคุณภาพสูง รับผลิตตามแบบ วัสดุแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้หลากหลาย เช่น เครื่องจักร อุตสาหกรรมยานยนต์ และงานแม่พิมพ์
12 ก.พ. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy